บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) การเป็นผู้นำคนรับใช้ของผู้บริหาร 2) ประสิทธิผลของสถานศึกษา 3)ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำข้าราชการกับประสิทธิผลในสถาบันการศึกษาในกลุ่มบริหารการศึกษาพิเศษที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานบริหารการศึกษาพิเศษ จำนวน 306 คน ใช้การสุ่มแบบแบ่งชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล แบบสอบถามเป็นแบบสอบถามการประมาณค่า 5 ระดับ ค่าความเชื่อมั่น .92 สถิติการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การกระจายความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการวิจัยมีดังนี้
- ภาวะผู้นำข้าราชการในสังกัดสำนักงานบริหารการศึกษาพิเศษกลุ่มที่ 1 โดยรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อแยกออกเป็นแต่ละด้านพบว่ามี 2 ด้านอยู่ในระดับสูงสุด และ 8 ด้านอยู่ในระดับมาก ตามลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ดังนี้ การสร้างชุมชน ความมุ่งมั่นในการเติบโตของผู้คน การดูแล การรับรู้ การโน้มน้าวใจ การรักษา การฟัง การวางแนวความคิด การมองการณ์ไกล และการเอาใจใส่
- ประสิทธิผลในสถานศึกษาสังกัดการบริหารการศึกษาพิเศษกลุ่มที่ 1 โดยรวมอยู่ในระดับสูงสุด และเมื่อแยกออกเป็นแต่ละด้านพบว่ามี 2 ด้านอยู่ในระดับสูงสุด และ 2 ด้านอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ดังนี้ ปริมาณและคุณภาพของผลผลิต ความสามารถในการปรับตัวขององค์กร ประสิทธิภาพในการผลิต และความยืดหยุ่นขององค์กร
- ความสัมพันธ์ระหว่างความเป็นผู้นำข้าราชการกับประสิทธิผลในสถาบันการศึกษามีความสัมพันธ์ในระดับปานกลาง (r = 0.939) โดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01
รายการอ้างอิง
พลกฤษณ์ บัวประเสริฐ และพรศักดิ์ สุจริตรักษ์ (2565)ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำแบบผู้รับใช้ของผู้บริหารกับประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ กลุ่ม 1. วารสารสิรินธรปริทรรศน์. ปีที่ 23 ฉบับที่ 01 (2022) : มกราคม - มิถุนายน; หน้า 281- 295.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น